Soft Power คืออะไร พร้อมยกตัวอย่างในการนำมาปรับใช้กับธุรกิจ
ในยุคสมัยที่แวดวงการตลาดดิจิทัลเต็มไปด้วยการแข่งขันสูง ธุรกิจต่าง ๆ จึงเฟ้นหากลยุทธ์ที่ดีและเหมาะสมที่สุดสำหรับตนเอง เพื่อนำมาปรับใช้ให้แบรนด์โดดเด่นเหนือคู่แข่ง ซึ่งขณะนี้ มีเทรนด์หนึ่งที่กำลังได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก ได้แก่ “Soft Power”
หลายคนอาจเคยได้ยินคำว่า Soft Power ผ่านหูกันมาบ้าง เนื่องจากเป็นหนึ่งในสิ่งที่รัฐบาลกำลังผลักดัน แต่บางคนก็อาจจะยังไม่รู้แน่ชัดว่าแท้จริงแล้ว Soft Power คืออะไรกันแน่ แล้วสิ่งนี้สามารถนำมาปรับใช้กับธุรกิจเพื่อเพิ่มยอดขายได้หรือไม่
เรามาหาคำตอบกันในบทความนี้ !
Soft Power คืออะไร
Soft Power คือ ทฤษฎีที่ถูกคิดค้นขึ้นโดยศาสตราจารย์โจเซฟ ไนย์ (Joseph S. Nye) อาจารย์มหาวิทยาลัยฮาร์เวิร์ด ซึ่งหมายถึง อำนาจที่เกิดขึ้นจากการโน้มน้าวใจ หรือดึงดูดให้ผู้คนสนใจและอยากเข้ามามีส่วนร่วม โดยไม่ต้องใช้การบังคับขู่เข็ญ ตามชื่อ Soft ที่แปลว่า อ่อน และมีตัวแปรสำคัญที่ใช้ชักจูงผู้คนได้ คือ “วัฒนธรรม” ของพื้นที่นั้น ๆ
หากพูดถึง Soft Power ของไทย ตัวอย่างเช่น ธุรกิจลูกชิ้นยืนกินในจังหวัดบุรีรัมย์ที่มียอดขายถล่มทลาย เพียงเพราะ “ลิซ่า BLACKPINK” เผยในรายการทอล์กโชว์ว่า อาหารโปรดของตนคือ ลูกชิ้นยืนกินน้ำจิ้มรสเด็ดหลังสถานีรถไฟบุรีรัมย์ ทำให้ชาวบ้านแห่ไปกินตามเป็นจำนวนมาก ทั้งยังมีออร์เดอร์ล่วงหน้าข้ามวันข้ามคืนจนเจ้าของร้านแทบไม่ได้นอนเลยทีเดียว ซึ่งจากเคสนี้ เราจะเห็นได้ว่า “ลิซ่า” ไม่ได้มีการโฆษณาให้ร้านแต่อย่างใด เพียงแค่พูดว่าเป็นร้านที่ตนเองชอบกินตอนเด็ก ๆ เท่านั้น แต่เนื่องจากเธอเป็นบุคคลที่มีอิทธิพลระดับโลก ทำให้ไม่ว่าจะพูดอะไรออกมา ก็สามารถกลายเป็น Soft Power ได้ง่าย ๆ เลย
5F ของ Soft Power มีอะไรบ้าง สามารถนำมาปรับใช้กับธุรกิจได้อย่างไร
ประเทศไทยถือเป็นเมืองที่มีวัฒนธรรมที่ชัดเจนและค่อนข้างเป็นเอกลักษณ์ จดจำได้ง่าย ทำให้มี Soft Power ที่แข็งแกร่งหลายด้าน โดยรัฐบาลไทยกำหนดให้ 5F ของ Soft Power คือ
1. Food – อาหารไทย
เมื่อนึกถึงประเทศไทย สิ่งที่จะไม่พูดถึงไม่ได้เลย ได้แก่ อาหารไทย เพราะมีรสชาติครบครัน ทั้งเปรี้ยว หวาน มัน เค็ม เผ็ด ผสมผสานกันอย่างลงตัว ถูกใจคนหลายเชื้อชาติ ทั้งยังมีกรรมวิธีการปรุงที่พิถีพิถัน ใส่ใจในรายละเอียด มีความประณีต ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงวัฒนธรรม ประเพณี และวิถีชีวิตของคนไทยอีกด้วย
แนวทางการนำมาปรับใช้กับธุรกิจ
- พัฒนาสินค้าอาหารไทยที่มีเอกลักษณ์ เช่น นำอาหารสูตรดั้งเดิมมาผสมผสานกับเทคนิคยุคปัจจุบัน ให้กลายเป็นเมนูใหม่ที่ยังคงเอกลักษณ์ของความเป็นไทยไว้ และออกแบบบรรจุภัณฑ์ให้ดูแตกต่าง น่าซื้อ
- นำเสนอเรื่องราวความอร่อยของอาหารไทย อาจเป็นการนำเสนอผ่านสื่อโซเชียลมีเดียต่าง ๆ หรือเชิญชวนอินฟลูเอ็นเซอร์มารีวิว เพื่อดึงดูดกลุ่มลูกค้าที่หลากหลายมากขึ้น
- สร้างประสบการณ์การกินอาหารไทยที่น่าประทับใจ ตกแต่งร้านให้บรรยากาศดี สวยงาม น่าเข้า และคงเอกลักษณ์ความเป็นไทยไว้
- เจาะกลุ่มเป้าหมายนักท่องเที่ยว ด้วยการศึกษาพฤติกรรมของกลุ่มนักท่องเที่ยว และจัดเตรียมพนักงานที่สามารถพูดภาษาต่างประเทศได้ไว้คอยบริการ
2. Film – ภาพยนตร์ไทย
ภาพยนตร์ไทยหลายเรื่องมีบทบาทในการส่งเสริมวัฒนธรรมไทยไปยังผู้ชมทั่วโลก ยิ่งช่วงหลังมานี้ ประเทศเรายิ่งมีคุณภาพการผลิตที่ดีขึ้น เทียบเท่ามาตรฐานสากล ทำให้สามารถเติบโตในระดับนานาชาติได้อย่างง่ายดาย โดยภาพยนตร์ที่เป็น Soft Power ของไทย ตัวอย่างเช่น “องค์บาก (2546)” ที่ได้เข้าฉายกว่า 30 ประเทศทั่วโลก และ “ก้านกล้วย” แอนิเมชันสามมิติอิงประวัติศาสตร์ไทย ที่ได้รับการยกย่องว่าเป็นผลงานการ์ตูนไทยในระดับนานาชาติ
แนวทางการนำมาปรับใช้กับธุรกิจ
- สนับสนุนการผลิตภาพยนตร์ไทยที่มีเนื้อหาเข้มข้น โดยธุรกิจสามารถสนับสนุนเงินทุน สถานที่ถ่ายทำ และอุปกรณ์ให้กับภาพยนตร์ที่มีคุณภาพได้ เพื่อส่งเสริมให้ผู้สร้างผลิตผลงานดี ๆ ต่อไป
- คอลแลบฯ กับภาพยนตร์นั้น ๆ เพื่อสร้างสินค้าลิขสิทธิ์ร่วมกัน เนื่องจากสินค้าลิขสิทธิ์จากภาพยนตร์ไทยคุณภาพถือเป็น Soft Power อย่างหนึ่งที่ช่วยกระตุ้นรายได้ และแบรนด์ที่ร่วมคอลแลบฯ ก็จะได้สร้างการรับรู้ไปพร้อม ๆ กับการผลักดันภาพยนตร์ด้วย
- จัดกิจกรรมส่งเสริมการขายที่เกี่ยวข้องกับภาพยนตร์ไทย เช่น จัดร้านธีมภาพยนตร์ หรือมีโปรโมชันส่วนลดสำหรับผู้ที่แต่งตัวตามตัวละครในภาพยนตร์มาใช้บริการ เป็นต้น
3. Fashion – การออกแบบแฟชั่นไทย
อีกหนึ่ง Soft Power ที่โดดเด่นของไทย ได้แก่ ผ้าไทย เพราะมีความสวยงาม ประณีต และแต่ละลายยังมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ดูไม่เก่า แม้ว่าปัจจุบันผู้คนจะเน้นแต่งตัวแบบสมัยนิยมกันแล้ว แต่ด้วยความสร้างสรรค์ของคนไทย ก็จะมีการออกแบบแฟชั่นที่ผสมผสานเอกลักษณ์ไทยแบบดั้งเดิมเข้ากับเทรนด์สมัยใหม่ได้อย่างลงตัว สร้างความประทับใจให้ผู้บริโภคทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติได้มาก
แนวทางการนำมาปรับใช้กับธุรกิจ
- พัฒนาสินค้าแฟชั่นไทยที่มีเอกลักษณ์ ออกแบบโดยเน้นแนวทางของแฟชั่นยุคใหม่ แต่ผสมผสานเข้ากับเอกลักษณ์ไทยเดิมให้ดูสวยงาม มีระดับ ใส่ในชีวิตประจำวันได้
- โปรโมตสินค้าแฟชั่นไทยผ่านสื่อต่าง ๆ เพื่อเพิ่มโอกาสในการถูกมองเห็น และการเข้าถึงระดับนานาชาติ
- ผลักดันให้แบรนด์แฟชั่นไทยเป็นที่รู้จัก ด้วยการจัดกิจกรรมส่งเสริมแบรนด์ หรือประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับสินค้าของแบรนด์ผ่านสื่อต่าง ๆ
4. Fighting – ศิลปะการป้องกันตัวแบบไทย
ศิลปะการป้องกันตัวแบบไทย หรือ “มวยไทย” นับเป็น Soft Power ที่สำคัญมากของไทย เพราะสามารถดึงดูดผู้คนจากทั่วโลกให้หลงใหลในเสน่ห์ของศิลปะการต่อสู้แบบโบราณนี้ โดยมีนักมวยไทยที่เป็นที่รู้จักและโด่งดังระดับนานาชาติหลายคน เช่น นายขนมต้ม เจ้าของฉายา “เจ้าพ่อมวยไทย” ผู้สร้างตำนานมวยไทยโด่งดังไปทั่วโลก หรือ “แสนศักดิ์ เมืองสุรินทร์” เจ้าของฉายา “เจ้าพิฆาตมวยไทย” ซึ่งโด่งดังจากลีลาการชกที่ดุดัน เป็นต้น
แนวทางการนำมาปรับใช้กับธุรกิจ
- สร้างธุรกิจค่ายมวยหรือโรงเรียนสอนมวย เพื่อส่งเสริมให้ผู้คนทั่วไปได้เรียนรู้ทักษะด้านมวยไทย และผลิตสินค้าเกี่ยวกับมวยไทยขาย
- ธุรกิจท่องเที่ยวสามารถจัดแพ็กเกจท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมได้ โดยมีกิจกรรมการฝึกมวยไทย หรือการเยี่ยมชมค่ายมวยครอบคลุมในแพ็กเกจสำหรับผู้ที่สนใจ
- สนับสนุนนักกีฬามวยไทย อาจเป็นการเสนอสปอนเซอร์ให้ หรือดึงตัวนักกีฬามาโปรโมตแบรนด์ ทั้งนี้ สินค้าต้องสอดคล้องกับภาพลักษณ์ของนักกีฬาคนดังกล่าวด้วย
5. Festival - เทศกาลและประเพณีไทย
ประเทศไทยมีเทศกาลและประเพณีที่เป็นเอกลักษณ์ รวมถึงสามารถสร้างประสบการณ์ที่แตกต่างให้กับนักท่องเที่ยวได้ เพราะเต็มไปด้วยความสนุกสนาน รื่นเริง และกิจกรรมต่าง ๆ ที่สะท้อนถึงวิถีชีวิตของคนไทย เช่น เทศกาลสงกรานต์ เทศกาลลอยกระทง เป็นต้น
แนวทางการนำมาปรับใช้กับธุรกิจ
- สร้างประสบการณ์ที่ไม่เหมือนใคร ด้วยการผสมผสานองค์ประกอบของวัฒนธรรมไทยเข้ากับสินค้าและบริการ เช่น ร้านอาหารสามารถจัดเมนูพิเศษสำหรับเทศกาลต่าง ๆ หรือโรงแรมสามารถจัดแพ็กเกจท่องเที่ยวที่ผสมผสานประสบการณ์ทางวัฒนธรรม เป็นต้น
- เล่าเรื่องราวที่น่าดึงดูดผ่านคอนเทนต์ เทศกาลและประเพณีไทยมักมีเรื่องราวและตำนานที่น่าสนใจ โดยธุรกิจสามารถนำเสนอเรื่องราวเหล่านี้ผ่านสื่อต่าง ๆ ได้ เช่น เว็บไซต์ โซเชียลมีเดีย หรือวิดีโอ เพื่อดึงดูดความสนใจของลูกค้าและสร้างการเชื่อมโยงทางอารมณ์
- สนับสนุนชุมชนท้องถิ่น โดยอาจเป็นการซื้อสินค้าจากผู้ผลิตท้องถิ่น หรือจ้างงานช่างฝีมือท้องถิ่น เป็นต้น ซึ่งจะทำให้ภาพลักษณ์แบรนด์ดูดีขึ้นด้วย
ในปัจจุบัน ผู้บริโภคไม่ได้มองหาแค่สินค้าหรือบริการที่มีดีแค่คุณภาพ แต่แบรนด์ต้องสามารถมอบประสบการณ์ที่พิเศษ แปลกใหม่ และมีความหมายแก่ลูกค้าได้ด้วย ซึ่งเทรนด์ Soft Power ที่กำลังมาแรงในขณะนี้ถือว่าตอบโจทย์มาก ที่ธุรกิจจะหยิบยกมาและปรับใช้ให้เหมาะสม
เพิ่มยอดขายให้แบรนด์ไม่ยากอย่างที่คิด เพียงแค่ไว้ใจให้เจโนไซส์ดูแลธุรกิจให้คุณ เราเป็นบริษัทผู้เชี่ยวชาญด้านการตลาด ดิจิทัล และสื่อที่ครอบคลุม พร้อมช่วยให้ธุรกิจของคุณนำกลยุทธ์การตลาดรูปแบบต่าง ๆ มาปรับใช้เพื่อเพิ่มยอดขาย ติดต่อเราได้เลย !