5 กลยุทธ์การตลาดที่นักธุรกิจห้ามพลาด ฉบับอัปเดต 2024
เนื่องจากโลกของเราในยุคปัจจุบันหมุนไปอย่างรวดเร็ว ด้วยเทคโนโลยีและดิจิทัลต่าง ๆ ที่ได้รับการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง แล้วไหนจะเทรนด์หรือกระแสสังคมที่เปลี่ยนไปไม่เว้นแต่ละวัน ทำให้พฤติกรรมของผู้บริโภคเปลี่ยนแปลงตามไปด้วย ดังนั้น กุญแจสำคัญของการทำธุรกิจให้ประสบความสำเร็จ คือการตามสิ่งเหล่านี้ให้ทัน เพื่อที่จะได้สามารถทำการตลาดได้อย่างตรงจุด ตอบสนองความต้องการและเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพ
แน่นอนว่าในปี 2024 นี้ ก็มีอะไรเปลี่ยนแปลงไปจากปีก่อน ๆ เยอะแยะมากมาย ซึ่งบทความนี้จะมาบอก “5 กลยุทธ์การตลาดที่น่าสนใจ” ที่บอกเลยว่าผู้ประกอบการและนักการตลาดห้ามพลาด !
กลยุทธ์การตลาด 2024 มีอะไรบ้าง
1. การตลาดผ่านวิดีโอสั้น (Short Video Marketing)
ยุคปัจจุบัน ผู้คนใช้ชีวิตอยู่บนความเร่งรีบ โดยเฉพาะวัยทำงาน เวลาเล่นมือถือหรือโซเชียลมีเดียมักเป็นเวลาตื่นนอน นั่งรถสาธารณะไปทำงาน และก่อนนอน ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นช่วงเวลาสั้น ๆ ส่งผลให้ในปีนี้ นักการตลาดอาจต้องลดจำนวนคอนเทนต์ที่เป็นโพสต์ยาว ๆ ดูบ้าง แล้วหันไปโฟกัสกับกลยุทธ์การตลาดแบบวิดีโอสั้นให้มากขึ้น เนื่องจากปลายปีที่ผ่านมา เราจะเห็นได้ว่าการสร้างคอนเทนต์ในรูปแบบวิดีโอสั้นกำลังมาแรง เห็นได้จาก
- ผลวิจัย Digital News Report 2023 จาก Reuters ชี้ว่า ผู้บริโภคชาวไทยเสพข่าวจาก TikTok มากที่สุดในโลก แทนที่จะเป็น Facebook อย่างในอดีต
- ปลายปีที่แล้ว มีสถิติที่ระบุว่า TikTok เป็นแพลตฟอร์มที่นักการตลาดสนใจลงทุนมากสุด
- ฟีเจอร์ Reels บน Instagram กลายเป็นฟีเจอร์ที่มีกระแสตอบรับมากที่สุดบนแอปพลิเคชัน ยอดการมีส่วนร่วมโดยเฉลี่ยมากกว่าโพสต์ที่มีแค่รูปและแค็ปชันปกติ
- มีหลายธุรกิจหันมาใช้ Instagram Story ในการโปรโมตสินค้าและบริการมากขึ้น และพบว่ากระตุ้นการมีส่วนร่วมจากผู้ใช้งานได้ดี
ทั้งหมดนี้แสดงให้เห็นว่า คอนเทนต์รูปแบบวิดีโอสั้นสามารถดึงดูดความสนใจจากกลุ่มเป้าหมายได้เป็นอย่างดี อย่างไรก็ตาม แบรนด์ต้องสร้างสรรค์และออกแบบคอนเทนต์ให้มีความแปลกใหม่ สะดุดตาตั้งแต่แรกเห็น และสื่อสารเนื้อหาได้อย่างตรงจุด ไม่ต้องใช้เวลานานผู้ใช้ก็สามารถเข้าใจสิ่งที่แบรนด์จะสื่อได้ หากทำได้ตามนี้ รับรองว่ากลุ่มเป้าหมายไม่เลื่อนหนีแน่นอน
2. การตลาดแบบอินฟลูเอนเซอร์ (Influencer Marketing)
เชื่อว่าคงไม่มีนักการตลาดคนไหนไม่เคยได้ยินชื่อ Influencer Marketing หรือการตลาดแบบอินฟลูเอนเซอร์ เพราะกลยุทธ์การตลาดนี้ไม่ใช่เรื่องใหม่ แต่คาดว่าในปี 2024 นี้ Influencer Marketing ก็จะยังคงเป็นหนึ่งในกลยุทธ์การตลาดที่สามารถสร้างผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพสูงสุดในการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้ ทว่าสิ่งที่จะแตกต่างออกไปจากในอดีต คือ ปีนี้ Macro Influencer (อินฟลูเอนเซอร์ที่มีผู้ติดตามมากกว่า 100k คนขึ้นไป) และ Micro Influencer (อินฟลูเอนเซอร์ที่มีผู้ติดตามระหว่าง 10k-100k คน) จะได้รับความนิยมน้อยลง เนื่องจากผู้บริโภคเดาทางออกแล้ว และรู้สึกว่าเป็นการขายของแบบโต้ง ๆ มากเกินไป อีกทั้งรูปแบบการโฆษณายังเป็นแพตเทิร์นเดิม ๆ จนผู้บริโภคเริ่มมองข้าม
ในขณะเดียวกัน อินฟลูเอนเซอร์ที่มีชื่อเสียงน้อยลงมา หรือ Nano Influencer (อินฟลูเอนเซอร์ที่มีผู้ติดตามไม่เกิน 10k คน) จะได้รับความนิยมมากขึ้น เนื่องจากเป็นกลุ่มที่มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับผู้ติดตาม ดูเป็นบุคคลที่จับต้องได้ ทำให้เวลานำเสนอผลิตภัณฑ์อะไรสักอย่างนั้นน่าเชื่อถือ ไม่ดูเป็นการขายตรงจนเกินไป แต่เป็นเหมือนเพื่อนที่อยากบอกต่อสิ่งดี ๆ ให้แก่กันมากกว่า
ทั้งนี้ แบรนด์ต้องรู้จักปรับกลยุทธ์การขายให้ดูเนียนมากขึ้น แม้ผู้บริโภคจะดูออกอยู่แล้ว แต่ก็ควรทำให้ดูจริงใจ ไม่เฟก ใช้คำพูดที่น่าเชื่อถือและโน้มน้าวใจกลุ่มเป้าหมายได้ และที่สำคัญ อย่าลืมเลือกอินฟลูเอนเซอร์ที่มีภาพลักษณ์ตรงกับสินค้าหรือบริการของแบรนด์ด้วย
3. การตลาดในรูปแบบเมตาเวิร์ส (Metaverse Marketing)
เป็นอีกหนึ่งกลยุทธ์การตลาดที่เป็นที่พูดถึงมาสักพักแล้ว แต่ Metaverse ก็ยังไม่ได้ถูกนำมาใช้อย่างกว้างขวางเท่าไรนักในวงการธุรกิจไทย ทว่าปี 2024 นี้ ผู้เชี่ยวชาญด้านการตลาดหลายคนคาดการณ์ว่า Metaverse จะได้รับความนิยมมากขึ้น เนื่องจากตอนนี้ เทคโนโลยีและดิจิทัลหลายอย่างได้รับการพัฒนาอยู่เรื่อย ๆ ซึ่งอาจมีส่วนช่วยให้การนำ Metaverse มาปรับใช้กับธุรกิจราบรื่นขึ้น โดยแบรนด์สามารถสร้างประสบการณ์เสมือนจริงหรือโลกเสมือน ให้ผู้บริโภคได้เข้ามาสัมผัสกับผลิตภัณฑ์ของตนเองแบบใกล้ชิดกว่าที่เคย แม้ไม่ต้องมาที่หน้าร้านจริงก็สามารถชอปปิงแบบเรียล ๆ จากที่ไหนก็ได้แค่มีมือถือ กล่าวคือ ไม่ใช่แค่เลือกสินค้าที่ชอบจากหน้ารวมผลิตภัณฑ์บนเว็บไซต์เท่านั้น แต่จะเป็นการเลือกดูสินค้าในร้านบนโลก Metaverse เสมือนอยู่หน้าร้านจริง ๆ เลยทีเดียว
นอกจากการสร้างร้านบนโลกเสมือนจริงให้ลูกค้าได้เข้ามาชอปปิงผ่านประสบการณ์ที่แปลกใหม่กันแล้ว ธุรกิจยังสามารถจัดกิจกรรมหรืองานอีเวนต์แบบ Metaverse ได้ด้วย โดยอาจมีการใช้เทคโนโลยี AR/VR เข้ามาช่วยทำให้สมจริงมากขึ้น ถือเป็นการทำลายข้อจำกัดด้านสถานที่ ไม่ว่าลูกค้าจะอยู่ห่างจากเราแค่ไหนก็สามารถมีส่วนร่วมกับแบรนด์ได้ เรียกได้ว่ากลยุทธ์การตลาดแบบ Metaverse นี้ เป็นเทคนิคที่ทำให้ผู้บริโภคตื่นตาตื่นใจ ช่วยสร้างความประทับใจและกระชับความสัมพันธ์กับลูกค้า อันจะก่อให้เกิดการจดจำแบรนด์ที่ง่ายขึ้นตามมา
4. ระบบ AI แนะนำสินค้าอัตโนมัติ (AI Marketing)
หากถามว่าปี 2024 นี้ กลยุทธ์การตลาดมีอะไรบ้าง จะไม่พูดถึง AI ก็เห็นทีจะไม่ได้ ! เพราะ AI ถือเป็นเทคโนโลยีที่เป็นกระแสอยู่มากทีเดียวในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมานี้ ทั้งยังได้รับการพัฒนาอย่างต่อเนื่องแบบไม่มีวี่แววว่าจะได้รับความนิยมลดลง มีแต่จะมากขึ้นด้วยซ้ำ ดังนั้น ธุรกิจไหนที่ยังไม่ได้นำ AI มาปรับใช้กับการตลาดของตนเองต้องรีบแล้ว ไม่เช่นนั้นอาจตกขบวน ล้าหลังคู่แข่งจนตามไม่ทันได้ โดยในปีนี้ ฟีเจอร์ของ AI ที่คาดว่าจะทำให้เกิดประสิทธิผลมากที่สุด ได้แก่ การใช้ระบบแนะนำสินค้าอัตโนมัติ เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าแต่ละรายได้อย่างรวดเร็วและตรงจุดมากขึ้น หรือเรียกว่าเป็นการทำ Personalized Marketing ในเวอร์ชันที่ทันสมัยขึ้นนั่นเอง ซึ่งกระบวนการทำงานของ AI คือ จะเก็บข้อมูลของลูกค้าเพื่อนำมาวิเคราะห์ว่าคนไหนชอบหรือไม่ชอบอะไร แล้วประมวลผลเพื่อนำเสนอสินค้าให้ตรงกับสิ่งที่คาดว่าลูกค้ารายนั้น ๆ จะชอบมากที่สุด นอกจากจะสร้างความประทับใจให้ลูกค้าได้แล้ว AI ยังช่วยลดต้นทุนการทำการตลาด ตลอดจนปรับภาพลักษณ์ธุรกิจให้ดูทันสมัยมากขึ้นอีกด้วย
5. การตลาดแบบเกม (Gamification Marketing)
แค่ชื่อก็ฟังดูน่าสนุกแล้ว สำหรับกลยุทธ์การตลาดแบบเกม โดยธุรกิจสามารถจัดกิจกรรมการตลาดให้ดูคล้าย ๆ กับการเล่นเกม เพื่อเพิ่มความน่าสนใจและกระตุ้นให้ผู้บริโภครู้สึกอยากมีส่วนร่วมมากขึ้นได้ เช่น การจัดให้มีกิจกรรมแจกรางวัล หรือสิทธิพิเศษผ่านการเล่นเกม และมีสิ่งจูงใจต่าง ๆ ที่ทำให้กลุ่มเป้าหมายมีความแอ็กทิฟ อย่างการจัดอันดับหรือการให้คะแนน เป็นต้น นอกจากนี้ ธุรกิจยังสามารถสร้างเกมเพื่อโปรโมตผลิตภัณฑ์ หรือสร้างแอปฯ ที่มีกลยุทธ์สร้างการรับรู้แบรนด์แฝงอยู่ โดยเทคนิคนี้สามารถให้ทั้งความบันเทิงและดึงดูดความสนใจของกลุ่มเป้าหมายได้เป็นอย่างดี รวมถึงเป็นการสร้างประสบการณ์ที่โดดเด่นและแตกต่างไปจากคู่แข่งอีกด้วย
เมื่อโลกเปลี่ยนไป กลยุทธ์การตลาดก็ต้องเปลี่ยนตามเป็นเรื่องธรรมดา และนี่ก็คือ 5 กลยุทธ์ที่ธุรกิจควรหันมาโฟกัสให้มากขึ้นในปีนี้ แต่อย่าลืมระลึกไว้เสมอว่า ทุกกลยุทธ์นั้น ไม่ใช่มีแบรนด์เราทำคนเดียว คู่แข่งเราเขาก็ทำเหมือนกัน ฉะนั้น เมื่อรู้แล้วว่ากลยุทธ์การตลาดปีนี้มีอะไรบ้าง ก็ให้คิดเผื่อด้วยว่าจะทำอย่างไรให้ตนเองโดดเด่นจากคู่แข่ง และทำให้ผู้บริโภคเลือกเราเป็นที่หนึ่งในใจให้ได้ ซึ่งอาจทำได้โดยวิเคราะห์หาจุดแข็ง-จุดอ่อนของธุรกิจอื่น ๆ ในอุตสาหกรรม ว่าอะไรที่เขามีแล้วเรายังไม่มี แล้วนำสิ่งนั้นมาปรับใช้ให้แบรนด์ของเราแข็งแกร่งยิ่งขึ้น
ถึงเวลาแล้วที่คุณต้องเข้าใกล้คำว่าสำเร็จให้มากกว่าเดิม ติดต่อเจโนไซส์ได้เลยวันนี้ เราเป็นบริษัทที่ให้บริการด้านการตลาดแบบครอบคลุมทุกจุดของการทำธุรกิจ เพื่อเติมเต็มการสร้างเเบรนด์และงานลูกค้าสัมพันธ์ด้วยข้อมูลเชิงลึก และพร้อมที่จะทำให้คุณก้าวไปได้ไกลกว่าที่เคย