Gen Beta คือใคร ? กลุ่มคนรุ่นล่าสุดที่จะมาเปลี่ยนโลกการตลาด
นี่คือยุคของคนที่เกิดมาพร้อมกับเทคโนโลยีล้ำสมัย เหมือนเป็นส่วนหนึ่งของ DNA กล่าวคือ ไม่มีเส้นแบ่งระหว่างความจริงกับจินตนาการ ไม่มีกรอบของคำว่า “ทำไม่ได้” หรือ “ยากเกินไป” ทุกสิ่งคือโอกาส ทุกข้อจำกัดคือพื้นที่ให้พวกเขาได้สร้างสรรค์ พวกเขาคือคนรุ่นใหม่ที่ไม่ได้เพียงแค่ก้าวข้ามขีดจำกัด แต่ยังพลิกนิยามของคำว่า “ขีดจำกัด” ไปอย่างสิ้นเชิง
มาทำความรู้จักโลกของ Gen Beta พวกเขาคือใคร แตกต่างจากคนรุ่นก่อนอย่างไร และทำไมคุณถึงควรเริ่มทำความเข้าใจพวกเขาตั้งแต่วันนี้ เพราะคนรุ่นนี้ไม่ได้แค่เดินเข้ามาในโลกแห่งอนาคต แต่พวกเขาคือผู้สร้างอนาคตนั้นเอง !
Gen Beta คือใคร ?
คนรุ่นเบต้า หรือ Gen Beta คือ กลุ่มคนที่เกิดตั้งแต่ปี 2025 เป็นต้นไป เป็นกลุ่มคนรุ่นแรกที่จะเติบโตมาในโลกดิจิทัลอย่างแท้จริง เพราะช่วงอายุ Gen Beta นั้นอยู่ในยุคที่เทคโนโลยีได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวันมนุษย์อย่างสมบูรณ์ ซึ่งแตกต่างจากคนเจเนอเรชันก่อนหน้าที่ต้องปรับตัวเข้ากับความเปลี่ยนแปลง ดังนั้น หนึ่งในความพิเศษของ Gen Beta คือ พวกเขาจะมีความสัมพันธ์กับเทคโนโลยีราวกับว่าเป็นลมหายใจเลยทีเดียว
ความพิเศษของ Gen Beta คืออะไรบ้าง ?
ความคิดสร้างสรรค์ที่ล้ำสมัย
คนรุ่นเบต้าล้วนมีความคิดสร้างสรรค์ที่ไร้ขีดจำกัด พวกเขาสามารถผสมผสานเทคโนโลยีกับความคิดริเริ่มได้อย่างน่าทึ่ง ส่งผลให้การแก้ปัญหาของพวกเขาไม่ได้อยู่บนพื้นฐานของวิธีการเดิม ๆ อีกต่อไป แต่เป็นการคิดนอกกรอบในแบบที่คนเจเนอเรชันก่อน ๆ อาจคิดไม่ถึง
ความเชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยี
เทคโนโลยีสำหรับ Gen Beta ไม่ใช่แค่เครื่องมือ แต่เป็นภาษาหลักที่พวกเขาใช้สื่อสารกับโลก โดยคนรุ่นเบต้าจะมีความเข้าใจเชิงลึกเกี่ยวกับปัญญาประดิษฐ์ (AI) การวิเคราะห์ข้อมูล และเทคโนโลยีล้ำสมัยต่าง ๆ โดยที่แทบจะไม่ต้องใช้ความพยายามในการเรียนรู้เลย
การตัดสินใจที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูล (Data-Driven Decision)
ในขณะที่คน Gen X และ Gen Y มีแนวโน้มตัดสินใจจากประสบการณ์ส่วนตัวและคำแนะนำจากผู้อาวุโส Gen Z ตัดสินใจโดยใช้ข้อมูลจากโซเชียลมีเดียและความคิดเห็นออนไลน์ คนช่วงอายุ Gen Beta จะใช้ข้อมูลและการวิเคราะห์เป็นหลักในการตัดสินใจทุกอย่าง เพราะพวกเขามีทักษะในการประมวลผลข้อมูลที่ซับซ้อนและสามารถมองเห็นภาพรวมได้อย่างรวดเร็ว
ให้ความสำคัญกับจริยธรรมและสิ่งแวดล้อม
คนรุ่นเบต้าให้ความสำคัญกับความยั่งยืนและจริยธรรมอย่างจริงจัง เนื่องจากพวกเขาต้องการเห็นการเปลี่ยนแปลงเชิงบวกในสังคมและสิ่งแวดล้อมอย่างเป็นรูปธรรม
การทำการตลาดให้ตรงกับความต้องการของ Gen Beta
สร้างคอนเทนต์ที่เข้าใจและสะท้อนตัวตน
การสร้างคอนเทนต์สำหรับ Gen Beta จำเป็นต้องคำนึงถึงความลึกซึ้งและความหมายของเรื่องราวนั้น ๆ ซึ่งไม่เพียงแต่เป็นการให้ข้อมูล แต่ยังต้องท้าทายกรอบความคิดแบบเดิม ๆ และกระตุ้นให้เกิดการคิดวิเคราะห์ด้วย กล่าวคือ ควรมีความซับซ้อนทางความคิด นำเสนอมุมมองที่หลากหลาย พร้อมเชื่อมโยงประเด็นต่าง ๆ เข้าด้วยกันอย่างเป็นระบบ
ทั้งนี้ การสร้างความน่าเชื่อถือสามารถทำได้โดยใช้ข้อมูลเชิงลึกจากการวิจัย และแสดงความโปร่งใสในที่มาของข้อมูล เพราะคนรุ่นเบต้ามีแนวโน้มที่จะชอบการตรวจสอบและวิเคราะห์ข้อมูลด้วยตนเอง
ใช้เทคโนโลยีเพื่อเชื่อมต่อ
หากอยากใช้กลยุทธ์การทำการตลาดให้ตรงกับความต้องการของ Gen Beta นักธุรกิจต้องสร้างนวัตกรรมการสื่อสารที่คำนึงถึงประสบการณ์อันไร้รอยต่อและปรับแต่งได้ เช่น การใช้แพลตฟอร์มที่ทำงานด้วยปัญญาประดิษฐ์ หรือระบบโต้ตอบกับลูกค้าแบบเรียลไทม์ที่สามารถเข้าใจทั้งบริบทและอารมณ์ เพื่อการเชื่อมต่อที่ราบรื่นยิ่งขึ้น
เน้นความโปร่งใสและความยั่งยืนในทุกมิติของธุรกิจ
อย่างที่ได้บอกไปว่า Gen Beta นั้นให้ความสำคัญกับความรับผิดชอบทางสังคมเป็นอย่างมาก โดยพวกเขาต้องการเห็นหลักฐานที่เป็นรูปธรรมของความพยายามในการสร้างผลกระทบเชิงบวก เช่น การเปิดเผยกระบวนการผลิตอย่างละเอียด การสาธิตผลกระทบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม ไปจนถึงการสร้างดัชนีชี้วัดความยั่งยืนที่ชัดเจน ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะช่วยสร้างความเชื่อใจในกลุ่มคนรุ่นเบต้าได้มากทีเดียว
สร้างความรู้สึกของการมีส่วนร่วม
การมีส่วนร่วมสำหรับ Gen Beta ไม่ใช่แค่การรับฟัง แต่เป็นการร่วมสร้างสรรค์สินค้าและบริการกับแบรนด์ ดังนั้น การสร้างพื้นที่แห่งนวัตกรรมที่เปิดโอกาสให้พวกเขาได้แสดงความคิดสร้างสรรค์จึงเป็นสิ่งสำคัญที่ธุรกิจควรหันมาโฟกัสให้มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการจัดแพลตฟอร์มระดมความคิด การเปิดโอกาสให้มีส่วนร่วมในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ หรือการสร้างรางวัลสำหรับไอเดียสร้างสรรค์ ซึ่งล้วนมีส่วนช่วยในการกระตุ้นการมีส่วนร่วมได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้ลูกค้ารู้สึกมีคุณค่าและมีความหมายบางอย่างต่อแบรนด์
สำหรับใครที่ยังคงมองว่า Gen Z หรือ Gen Alpha เป็นกลุ่มที่น่าจับตามองที่สุดในยุคนี้ ขอบอกเลยว่า Gen Beta กำลังมาและจะมาแรงกว่าเดิมหลายเท่า เพราะโลกที่พวกเขาเติบโตขึ้นมาไม่ได้มีแค่เครื่องมือไฮเทค แต่เป็นโลกที่พวกเขาออกแบบขึ้นเอง ตั้งแต่เศรษฐกิจไปจนถึงวัฒนธรรม จึงกล่าวได้ว่านี่คือยุคที่ความคิดสร้างสรรค์และความสามารถไร้ขีดจำกัดของมนุษย์จะถูกนำมาใช้เพื่อสร้างความเปลี่ยนแปลงอย่างแท้จริง ดังนั้น Gen Beta ไม่ได้เป็นเพียง “อนาคต” แต่คือ “พลัง” ที่จะพาเราก้าวข้ามทุกขอบเขตของจินตนาการ
Loading...