รู้จัก 15 มิติของ Customer Experience Management คืออะไร ?
ในยุคปัจจุบันที่ธุรกิจต้องเผชิญกับการแข่งขันที่รุนแรง การสร้างประสบการณ์ที่ดีผ่านการขายสินค้าและบริการถือเป็นกุญแจสำคัญในการรักษาความสัมพันธ์อันดีกับลูกค้า รวมถึงช่วยสร้างความภักดีต่อแบรนด์ (Brand Loyalty) ในระยะยาวได้ และ “Customer Experience Management” คือหนึ่งในแนวคิดที่องค์กรธุรกิจต่างให้ความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง
Customer Experience Management คืออะไร ?
Customer Experience Management (CEM/CXM) คือ การบริหารจัดการประสบการณ์ของลูกค้าในทุกจุดสัมผัสของการซื้อ-ขาย เพื่อสร้างความพึงพอใจสูงสุดและคงไว้ซึ่งความภักดีของลูกค้า โดยกระบวนการนี้ครอบคลุมตั้งแต่การออกแบบสินค้าและบริการ การมีปฏิสัมพันธ์กับลูกค้าผ่านช่องทางต่าง ๆ ไปจนถึงการให้บริการหลังการขายและการดูแลลูกค้าอย่างต่อเนื่อง
ความสำคัญของ Customer Experience Management คืออะไร ?
เพิ่มความพึงพอใจและความภักดีของลูกค้า
เมื่อลูกค้าได้รับประสบการณ์ที่ดีเยี่ยม พวกเขาก็มีแนวโน้มที่จะกลับมาใช้บริการหรือซื้อสินค้าของแบรนด์อีกครั้ง และอาจเป็นการเพิ่มโอกาสในการแนะนำแบรนด์ต่อแก่บุคคลอื่น ๆ ด้วย ส่งผลให้ธุรกิจมีฐานลูกค้าที่แน่นแฟ้นและมั่นคง
เพิ่มรายได้และส่วนแบ่งการตลาด
Customer Experience Management ที่ดีจะช่วยสร้างความแตกต่าง ทำให้แบรนด์มีความโดดเด่นเมื่อเทียบกับคู่แข่ง อันจะส่งผลให้ธุรกิจสามารถคงรายได้จากลูกค้ารายเก่าไว้ได้ ทั้งยังดึงดูดลูกค้ารายใหม่เข้ามาได้มากขึ้นด้วย
ลดต้นทุนในการดำเนินงาน
การบริหารจัดการประสบการณ์ที่ดีตั้งแต่ต้น จะช่วยลดความผิดพลาดและการสิ้นเปลืองทรัพยากร อีกทั้งยังลดเวลาในการแก้ไขปัญหา ทำให้ต้นทุนการดำเนินงานในระยะยาวน้อยลงได้
สร้างความได้เปรียบในการแข่งขัน
ในสภาวะการแข่งขันในตลาดที่สูงขึ้นเรื่อย ๆ การมอบประสบการณ์ที่ดีแก่ลูกค้าได้กลายมาเป็นจุดขายสำคัญสำหรับทุกธุรกิจ หากแบรนด์ไหนทำได้ดี ก็จะช่วยให้แตกต่างจากแบรนด์คู่แข่ง และสามารถรักษาความได้เปรียบทางการแข่งขันไว้ได้ เพิ่มโอกาสในการเป็นผู้นำในอุตสาหกรรม
15 มิติสำคัญของ Customer Experience Management คืออะไรบ้าง ?
1. Leadership (ความเป็นผู้นำ)
การที่ธุรกิจจะมี Customer Experience Management ที่ดีได้นั้น ผู้ประกอบการหรือบริหารองค์กรต้องมีวิสัยทัศน์และให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่ต่อการนำแผน CEM มาปฏิบัติ เพื่อให้สามารถขับเคลื่อนกลยุทธ์ด้านการสร้างประสบการณ์แก่ลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ
2. CX Purpose (จุดประสงค์)
ธุรกิจต้องกำหนดจุดมุ่งหมายหลักในการสร้างประสบการณ์แก่ลูกค้าอย่างชัดเจน เพื่อให้ทุกฝ่ายสามารถเข้าใจไปในทิศทางเดียวกัน โดยควรเป็นจุดหมายที่ท้าทาย แต่บรรลุผลได้จริง สอดคล้องกับพันธกิจและค่านิยมหลักขององค์กร เช่น ต้องการสร้างความประทับใจแก่ลูกค้าในทุกจุดสัมผัส ต้องการตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างรวดเร็วและถูกต้อง ฯลฯ
3. CX Vision (วิสัยทัศน์)
มีวิสัยทัศน์ระยะยาวด้านการสร้างประสบการณ์แก่ลูกค้า กล่าวคือ กำหนดภาพอนาคตที่ธุรกิจต้องการไปให้ถึง ตลอดจนวางมาตรฐานและระดับคุณภาพของประสบการณ์ แล้วนำมาเป็นแนวทางในการวางแผนและดำเนินการตามกลยุทธ์ Customer Experience Management ให้น่าประทับใจที่สุด
4. CX Strategy (กลยุทธ์)
กำหนดกลยุทธ์และแผนปฏิบัติการที่ละเอียดและเป็นรูปธรรม สอดคล้องกับวิสัยทัศน์และเป้าหมายด้านการสร้างประสบการณ์แก่ลูกค้า โดยระบุกิจกรรม ขั้นตอน และโครงการต่าง ๆ ที่ต้องดำเนินการ รวมถึงวางแผนการจัดสรรทรัพยากร งบประมาณ และผู้รับผิดชอบให้ชัดเจน
5. CX Program Design (การออกแบบกิจกรรม)
ออกแบบโครงการและกิจกรรมต่าง ๆ ที่สามารถตอบสนองต่อความคาดหวังของลูกค้าได้อย่างครบถ้วน มุ่งเน้นการปรับปรุงประสบการณ์ลูกค้าให้เกิดความพึงพอใจสูงสุด โดยในการออกแบบ ควรคำนึงถึงความคาดหวังและความต้องการที่หลากหลายของลูกค้าเสมอ
6. Experience-Led Culture (วัฒนธรรมองค์กร)
สร้างวัฒนธรรมองค์กรที่ปลูกฝังและมุ่งเน้นแนวคิดการสร้างประสบการณ์ที่ดีแก่ลูกค้าเป็นหัวใจหลัก พนักงานทุกคนจะต้องมีจิตสำนึกและทัศนคติที่ดีในการให้บริการ โดยองค์กรอาจมีระบบการฝึกอบรม การประเมิน และการให้รางวัลจูงใจเพื่อผลักดันให้พนักงานหมั่นสร้างความประทับใจแก่ลูกค้าให้ได้มากที่สุด
7. Employee Engagement (การมีส่วนร่วมของพนักงาน)
สื่อสารและสร้างความผูกพันกับพนักงานทุกระดับให้เข้าใจ และมีส่วนร่วมในการขับเคลื่อนกลยุทธ์ Customer Experience Management เช่น เปิดโอกาสให้พนักงานมีส่วนร่วมในการออกแบบและพัฒนาประสบการณ์ลูกค้า หรือรับฟังความคิดเห็นและคำแนะนำจากพนักงานเพื่อนำมาปรับปรุงแผน CEM
8. CX Governance (ฝ่ายดูแลประสบการณ์ลูกค้า)
จัดตั้งทีมงานหรือฝ่ายที่ทำหน้าที่กำกับดูแลการดำเนินงานด้าน Customer Experience Management ให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ โดยมีการจัดสรรบทบาท หน้าที่ และความรับผิดชอบให้แต่ละฝ่ายอย่างเหมาะสม พร้อมติดตามและรายงานผลอย่างสม่ำเสมอ
9. CX Data, Feedback, and Insights (ข้อมูลและความคิดเห็นจากลูกค้า)
มีกระบวนการจัดเก็บข้อมูลเกี่ยวกับพฤติกรรมและประสบการณ์ของลูกค้าอย่างเป็นระบบ แล้วนำข้อมูลและความคิดเห็นของลูกค้าจากหลากหลายช่องทางมาวิเคราะห์ เพื่อนำไปปรับปรุงประสบการณ์ให้ดียิ่งขึ้น
10. CX Operations (กระบวนการปฏิบัติงาน)
บริหารจัดการกระบวนการปฏิบัติงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการให้บริการลูกค้าให้มีประสิทธิภาพ ลื่นไหล และสร้างประสบการณ์ที่ไร้รอยต่อ โดยควรมีการควบคุมและตรวจสอบคุณภาพของการให้บริการอย่างเคร่งครัด
11. Performance Management (การประเมินผล)
ติดตามและประเมินผลการดำเนินงานด้าน Customer Experience Management ตามตัวชี้วัดที่กำหนดไว้ เพื่อนำข้อมูลมาวิเคราะห์แล้วปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง
12. Internal & External Communications (การสื่อสารภายในและภายนอก)
มีกระบวนการสื่อสารที่ชัดเจนทั้งภายในและภายนอกองค์กร เช่น การสร้างความเข้าใจเกี่ยวกับ Customer Experience Management ให้กับพนักงานทุกระดับ การสื่อสารคุณค่าและจุดขายด้านประสบการณ์ของลูกค้าไปยังกลุ่มเป้าหมาย ฯลฯ เพื่อผลักดันกลยุทธ์ CEM ไปสู่ความสำเร็จ
13. Brand Integration (การบูรณาการ)
บูรณาการประสบการณ์ของลูกค้าเข้ากับแบรนด์และคุณค่าขององค์กร กล่าวคือ ประสบการณ์ลูกค้าต้องสอดคล้องและสะท้อนคุณค่าหลักและตำแหน่งของแบรนด์ เพื่อส่งเสริมภาพลักษณ์ที่ดี และสร้างความโดดเด่นจากคู่แข่งผ่านการสร้างประสบการณ์ของลูกค้าที่เป็นเอกลักษณ์
14. Product/Service Innovation (การพัฒนาสินค้าและบริการใหม่ ๆ)
พัฒนาและปรับปรุงสินค้าและบริการอย่างสม่ำเสมอตามความต้องการของลูกค้า โดยนำข้อมูล ข้อคิดเห็น และข้อเสนอแนะของลูกค้ามาใช้เป็นแนวทางในการออกแบบ ตลอดจนไม่หยุดสร้างประสบการณ์ใหม่ ๆ ที่น่าตื่นเต้นและเหนือความคาดหมายของลูกค้าไปพร้อมกัน
15. CX Technology and Platforms (การใช้เทคโนโลยีและระบบต่าง ๆ)
นำเทคโนโลยีดิจิทัลสมัยใหม่และระบบต่าง ๆ มาใช้เพื่ออำนวยความสะดวกในการบริหารจัดการ รวมถึงเพิ่มประสิทธิภาพในการสร้างประสบการณ์แก่ลูกค้า เช่น ระบบการจัดเก็บและวิเคราะห์ข้อมูลเกี่ยวกับประสบการณ์และพฤติกรรมของลูกค้า เครื่องมือส่งเสริมการสื่อสารและปฏิสัมพันธ์กับลูกค้าแบบเรียลไทม์ ฯลฯ
จะเห็นได้ว่า ทั้ง 15 ประการของ Customer Experience Management นี้ ครอบคลุมทุกมิติสำคัญของการบริหารจัดการประสบการณ์ลูกค้า โดยเชื่อมโยงและสอดประสานกันตั้งแต่การกำหนดนโยบาย กลยุทธ์ การออกแบบกระบวนการ การสื่อสาร การปฏิบัติการ ไปจนถึงการนำเทคโนโลยีมาใช้สนับสนุน เพื่อผลักดันให้ CEM ขององค์กรประสบความสำเร็จอย่างยั่งยืน
สำหรับผู้ประกอบการที่ต้องการสร้างประสบการณ์ที่ดีแก่ลูกค้า แต่ยังเป็นมือใหม่ หมดไอเดีย หรือแม้แต่ไม่มีเวลาทำเอง เจโนไซส์ยินดีช่วยเหลือคุณตั้งแต่แรกเริ่ม เพราะเราคือเอเจนซีการตลาดที่มีบริการด้านการสร้างประสบการณ์และจัดงานอีเวนต์ ช่วยให้คุณสามารถรังสรรค์ประสบการณ์ชั้นเลิศแก่ลูกค้าในรูปแบบที่ไม่เหมือนใคร ติดต่อเราได้เลยวันนี้