แนะนำ 5 AI สุดอัจฉริยะ ช่วยเซฟเวลาทำงาน ชีวิตง่ายขึ้นเยอะ !

แนะนำ 5 AI สุดอัจฉริยะ ช่วยเซฟเวลาทำงาน ชีวิตง่ายขึ้นเยอะ !

ในยุคดิจิทัลที่เทคโนโลยีพัฒนาอย่างรวดเร็ว หนึ่งในเทรนด์ที่กำลังมาแรงมากในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา คือ “ปัญญาประดิษฐ์” หรือ “AI” ที่ถูกนำมาประยุกต์ใช้ในการทำงานหลากหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของงานเขียน งานกราฟฟิก งานนำเสนอ งานวิดีโอ ฯลฯ เรียกได้ว่าเหล่า AI ได้รับการพัฒนาฟีเจอร์อยู่เรื่อย ๆ ไม่มีพัก จนปัจจุบันทำได้เกือบจะทุกอย่างแล้ว

บทความนี้จึงขอเอาใจคนทำงานยุคใหม่ ด้วยการเเนะนำ 5 AI สุดอัจฉริยะ ที่จะช่วยให้ชีวิตการทำงานง่ายขึ้น ถึงจะประหยัดเวลาแต่งานก็ออกมามีประสิทธิภาพได้ !

แนะนำ 5 AI ช่วยทำงานฟรี มีอะไรบ้าง

1. ChatGPT

        เมื่อพูดถึง AI ช่วยทำงาน จะไม่พูดถึง ChatGPT ก็คงไม่ได้ โดย ChatGPT ถือเป็น AI แชตบอตตัวแรก ๆ ที่ฉลาดจนต้องร้องว้าว ! เพราะช่วยทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ตอบได้ทุกคำถาม อีกทั้งลักษณะการพิมพ์ยังมีความเป็นธรรมชาติเหมือนว่าเรากำลังคุยโต้ตอบอยู่กับมนุษย์จริง ๆ หลายคนจึงใช้ ChatGPT ช่วยในงานเขียน งานแปล งานพิสูจน์อักษร เขียนอีเมล และการตอบคำถามทั่วไป บอกเลยว่าเป็นแชตบอตที่ทำได้ทุกอย่างจนน่ากลัวว่าจะมาแย่งงานมนุษย์ในอนาคตได้จริง ๆ

        ทดลองใช้ : https://chat.openai.com/

2. Gemini (Bard)

        หลังจากถือกำเนิด ChatGPT สุดอัจฉริยะ Google ก็ไม่รอช้า เร่งพัฒนา AI เป็นของตัวเองบ้าง โดยแรกเริ่มใช้ชื่อ Bard แต่ปัจจุบันอัปเกรดเป็น Gemini แล้ว ลักษณะการใช้งานก็ไม่ค่อยต่างจาก ChatGPT เท่าไรนัก คือ เน้นช่วยเรื่องงานเขียน งานแปล งานพิสูจน์อักษร และการตอบคำถามทั่วไป ส่วนเรื่องภาษาก็มีความเป็นธรรมชาติไม่แพ้มนุษย์ เพราะ Gemini ใช้โมเดล Ultra 1.0 ซึ่งเป็นโมเดล AI ที่ล้ำสมัยที่สุดในขณะนี้

        ทดลองใช้ : https://gemini.google.com/app

3. Jasper.ai

        อีกหนึ่ง AI ช่วยทำงานเขียนที่ได้รับความนิยม ได้แก่ Jasper.ai ไม่ว่าจะเขียนงานเชิงวิชาการ บทความ บล็อกโพสต์ให้ความรู้ แค็ปชันโซเชียลมีเดียสั้น ๆ AI ตัวนี้ก็สามารถทำให้ได้ ทั้งยังสามารถตอบคำถามได้รอบด้านไม่แพ้ ChatGPT และ Gemini ด้วย และอีกฟีเจอร์ที่พิเศษสุด ๆ คือ Jasper.ai สามารถตรวจจับผลงานที่มีการคัดลอกทางวิชาการได้

      ทดลองใช้ : https://www.jasper.ai/

4. Grammarly

      สำหรับใครที่ทำงานเขียนเสร็จแล้วกำลังมองหาตัวช่วยตรวจทานภาษา ไวยากรณ์ ไปจนถึงการสะกดคำ Grammarly คือคำตอบ ! ไม่ว่าจะเขียนบทความยาว ๆ โพสต์สั้น ๆ หรือเขียนอีเมลแบบเป็นทางการ AI ตัวนี้ก็ช่วยพิสูจน์อักษรให้ได้หมด นอกจากนี้ ยังช่วยดูเครื่องหมายวรรคตอนต่าง ๆ ด้วย เช่น เว้นวรรค การใช้คอมมา หรือจุด เป็นต้น

      ทดลองใช้ : https://www.grammarly.com/

5. Synthesia.io

        Synthesia.io คือ AI ช่วยทำงานวิดีโอนำเสนอ เพียงแค่เราพิมพ์ข้อความที่อยากจะนำเสนอลงไป AI ก็จะแปลงเป็นคำพูดแบบเสียงพร้อมวิดีโอทันที อีกทั้งเรายังสามารถเลือกเสียงคนพูด ภาษา และอวตาร์ได้ด้วย เรียกได้ว่าเป็นการทำงานนำเสนอที่แปลกใหม่ แถมยังประหยัดเวลาสุด ๆ ไม่ต้องมีทักษะการตัดต่อวิดีโอก็ทำได้

      ทดลองใช้ : https://www.synthesia.io/

ข้อดีของการใช้ AI ช่วยทำงาน

ช่วยให้ประหยัดเวลา ทำงานเสร็จเร็วขึ้น

      AI สามารถทำงานซ้ำ ๆ ที่ใช้เวลานานได้โดยไม่ต้องพัก เช่น การค้นหาข้อมูล การจัดเรียงข้อมูล การวิเคราะห์ข้อมูล การเขียนบทความ ในขณะที่มนุษย์ยังต้องการเวลาพัก และหากใช้เวลาเขียนต่อเนื่องกันนาน ๆ ก็อาจเกิดอาการหัวตัน คิดอะไรไม่ออก ซึ่ง AI จะมาช่วยเติมเต็มช่องว่างในส่วนนี้ ช่วยให้ทำงานเสร็จเร็วขึ้น

ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน

      ไม่ใช่แค่ประหยัดเวลาเท่านั้น แต่ผลลัพธ์ที่ได้จากการใช้ AI ช่วยทำงานยังมีประสิทธิภาพอีกด้วย เพราะบางเรื่อง มนุษย์เองก็ยังไม่สามารถหาคำตอบได้ แต่พอเข้าไปถาม AI กลับได้คำตอบที่ต้องการ และสามารถนำข้อมูลที่ได้มาใช้ต่อยอดได้อีกเยอะ แถมยังมีเวลาไปพัฒนางานในส่วนอื่น ๆ ทำให้กระบวนการทำงานโดยรวมราบรื่นขึ้น

ทำงานได้แม่นยำ ลดการผิดพลาด

      การใช้ AI ช่วยทำงานจะเกิดความผิดพลาดได้น้อยกว่ามนุษย์ทำเอง ด้วยเพราะเป็นหุ่นยนต์ที่ได้รับการพัฒนามาเพื่อทำงานเหล่านี้โดยเฉพาะ และไม่มีความรู้สึกเหนื่อยล้าหรือสมองรวนเวลาทำงานเยอะ ๆ เหมือนมนุษย์ เห็นได้ชัดจาก AI ที่ช่วยพิสูจน์อักษร ที่สะท้อนว่าปัญญาประดิษฐ์เหล่านี้มีความเป๊ะและแม่นยำกว่ามนุษย์

ช่วยหาข้อมูล วิเคราะห์ข้อมูล

      หาข้อมูลใน Google มันเชยไปแล้ว เดี๋ยวนี้ต้องอยากรู้อะไรก็ถาม AI เอาได้เลย เพราะนอกจากจะมีคำตอบให้แบบละเอียดยิบแล้ว ยังสามารถช่วยวิเคราะห์ข้อมูลในปริมาณมากได้อย่างรวดเร็วเพียงไม่กี่วินาทีอีกด้วย

ช่วยสร้างสรรค์ไอเดีย

      คนทำคอนเทนต์ทุกวันก็คงจะมีบ้างที่คิดอะไรไม่ออก แต่เดี๋ยวนี้ไม่ต้องกังวลเรื่องนั้นแล้ว เพราะเรามี AI ที่ถามอะไรก็ตอบได้ แม้แต่ให้ช่วยคิดไอเดียทำคอนเทนต์ก็ยังช่วยได้ ! รับรองว่าได้แนวทางใหม่ ๆ มาต่อยอดอีกเพียบ

ข้อจำกัดของการใช้ AI ช่วยทำงาน

AI ยังไม่เข้าใจบริบทและอารมณ์แบบมนุษย์

      แม้จะทำงานได้มีประสิทธิภาพแค่ไหน แต่หากพูดถึงเรื่องบริบทและอารมณ์แล้ว AI ยังไม่สามารถทำความเข้าใจมนุษย์ได้ดีเท่ามนุษย์ด้วยกันเองอยู่ดี ฉะนั้น หากจะใช้ AI แชตบอตช่วยตอบคำถามลูกค้าก็สามารถใช้ได้ แต่ต้องคำนึงไว้เสมอว่า AI ไม่มีความรู้สึก จึงอาจตอบสนองลูกค้าในเรื่องของความเอาใจใส่ไม่ได้เท่าแอดมินที่เป็นมนุษย์จริง ๆ

ผลงานอาจดูไม่เป็นธรรมชาติ

      จริงอยู่ที่ว่าตอนนี้ AI ได้รับการพัฒนาภาษาให้ดูเป็นธรรมชาติขึ้นมาก แต่สำหรับบางภาษา เช่น ภาษาไทย ยังถือว่าเกินความสามารถของ AI อยู่ เนื่องจากภาษาไทยเป็นภาษาที่ซับซ้อน มีหลายระดับ และมีคำศัพท์ใหม่ ๆ เกิดขึ้นบ่อยบนโลกอินเทอร์เน็ต การจะพูดภาษาไทยให้ได้เหมือนคนไทยแท้ ๆ จึงน่าจะเป็นสิ่งที่ AI ยังทำไม่ได้ดีนัก ณ ขณะนี้

ควรตรวจสอบ แก้ไข และควบคุมโดยมนุษย์

        เราสามารถใช้ AI ช่วยทำงานได้ แต่ไม่ควรใช้งานที่มาจาก AI 100% แนะนำว่าให้ใช้เพื่อสร้างไอเดีย และเป็นแนวทางในการทำคอนเทนต์จะดีกว่า เพราะสุดท้ายแล้ว สิ่งที่ผู้ชมจะมองว่ามีคุณค่ามากที่สุดก็คือเนื้อหาที่สร้างขึ้นอย่างเอาใจใส่โดยมนุษย์มากกว่าหุ่นยนต์

และนี่ก็คือ 5 AI ช่วยทำงานที่ได้รับความนิยมมาก ที่แม้จะอัจฉริยะจนทำงานเลียนแบบมนุษย์ได้หลายอย่าง แต่อย่าลืมว่าในบางแง่ AI ก็ไม่สามารถแทนที่มนุษย์ได้ จึงไม่ควรใช้ AI ทำงานแทน แต่ควรทำงานร่วมกับ AI มากกว่า เพื่อให้ผลงานออกมามีประสิทธิภาพ รวดเร็ว และแม่นยำ

มองหาความช่วยเหลือเรื่องสร้างคอนเทนต์อยู่ใช่ไหม Jenosize มีบริการออกแบบคอนเทนต์และกราฟฟิก ครบจบในที่เดียว เพียงไว้ใจให้เราดูแลธุรกิจคุณ แล้วตัวตนของแบรนด์คุณจะชัดเจนและน่าจดจำกว่าที่เคย