สร้างประสบการณ์ใหม่ให้ธุรกิจ ด้วย Creativity x Technology
เมื่อเราก้าวเข้าสู่ยุคการตลาด 5.0 ที่เทคโนโลยีคือหัวใจสำคัญของการทำธุรกิจอย่างเต็มรูปแบบ แบรนด์จำนวนมากก็จำเป็นต้องปรับตัวและหาวิธีการใหม่ ๆ มาโปรโมตสินค้าและบริการของตนเองอยู่เสมอ เพื่อเพิ่มศักยภาพและความได้เปรียบในการแข่งขัน แต่อย่างที่รู้ว่าการแข่งขันในวงการนี้ไม่เคยหยุด และคู่แข่งก็ไม่เคยรอเรา ดังนั้น จากนี้ไปจนถึงอนาคต แค่ใช้เทคโนโลยีอย่างเดียวอาจไม่เพียงพออีกต่อไป เพราะแท้จริงแล้ว สิ่งที่เรียกว่าความคิดสร้างสรรค์ หรือ “Creativity” ก็สำคัญไม่แพ้กัน กล่าวคือ ในทุก ๆ การนำเทคโนโลยีมาปรับใช้ นักการตลาดควรจะต้องมีการผสมผสาน Creativity เข้าไปด้วย เพื่อให้กลยุทธ์การตลาดของเราโดดเด่น ไม่เหมือนใครและไม่มีใครเหมือน
บทความนี้จะมุ่งเน้นไปที่การอธิบายความสำคัญของ “Creativity x Technology” แนวทางการสร้างสรรค์โซลูชันใหม่ให้ธุรกิจ มาทำความเข้าใจไปพร้อมกันเลย !
ความสำคัญของ Creativity x Technology
เป็นการขับเคลื่อน Innovation
กล่าวคือ หลัก Creativity x Technology จะช่วยให้ธุรกิจสามารถคิดนอกกรอบ ค้นหาไอเดียใหม่ ๆ เพื่อนำมาพัฒนาสินค้า บริการ ตลอดจนกระบวนการทำงานที่ล้ำสมัย
ช่วยตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างตรงจุด
อย่างที่เรารู้กันว่าสมัยนี้ มีเทคโนโลยีหลายอย่างที่จะช่วยให้ธุรกิจเข้าใจความต้องการของลูกค้าได้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น แต่การที่นักการตลาดใช้ Creativity ควบคู่ไปด้วย ก็จะช่วยให้สามารถนำข้อมูลเชิงลึกเหล่านั้นมาพัฒนา Solution ที่ตรงใจกลุ่มเป้าหมาย อันจะนำไปสู่การสร้างประสบการณ์ที่ดีแก่ลูกค้าได้
ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในกระบวนการทำงาน
เทคโนโลยีช่วยให้ธุรกิจสามารถทำงานได้รวดเร็ว แม่นยำ ประหยัดได้ทั้งแรงงานของพนักงานและต้นทุนขององค์กร ในขณะที่ Creativity จะช่วยให้ธุรกิจสามารถหา Solution ใหม่ ๆ ในการใช้เทคโนโลยีเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน
ช่วยสร้างความแตกต่างจากคู่แข่งในอุตสาหกรรมเดียวกัน
วงการนี้ ใครทำก่อนก็มีโอกาสประสบความสำเร็จก่อน แน่นอนว่าใครมีความคิดสร้างสรรค์มากกว่า ก็มีโอกาสที่จะโดดเด่นกว่าเช่นกัน ดังนั้น สืบเนื่องจากข้อก่อน ๆ เมื่อเราสามารถหา Solution ใหม่ ๆ มาทำการตลาดได้แล้ว แนวทางเหล่านั้นก็จะช่วยให้ธุรกิจสามารถสร้างเอกลักษณ์และความแตกต่างจากคู่แข่งได้ เช่น การริเริ่มคิดว่าจะใช้ AI มาสร้างประสบการณ์ให้ลูกค้าอย่างไรดีที่คู่แข่งยังไม่ทำ เป็นต้น
แนวทางการสร้างสรรค์ Solution ใหม่
การใช้เทคโนโลยีเพื่อส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์
ปัญญาประดิษฐ์ (AI)
เมื่อพูดถึงเทคโนโลยี จะไม่พูดถึง AI ไปไม่ได้เลย เพราะเป็น Innovation ที่กำลังมาแรงมากในยุคนี้ โดย AI สามารถช่วยวิเคราะห์ข้อมูลจำนวนมหาศาลเพื่อค้นหาเทรนด์ รูปแบบ และโอกาสใหม่ ๆ ทั้งยังช่วยในการสร้างสรรค์ผลงาน ไม่ว่าจะเป็นงานเขียน งานวิดีโอ งานกราฟิก ตลอดจนงานออกแบบอื่น ๆ
Big Data
ในยุคที่โลกของเราขับเคลื่อนด้วยข้อมูลขนาดใหญ่ Big Data ถือเป็นกุญแจสำคัญที่ช่วยให้ธุรกิจเข้าใจความต้องการของลูกค้าและตลาดได้อย่างลึกซึ้ง ซึ่งหากเรามี Creativity ก็จะสามารถนำข้อมูลเหล่านั้นมาใช้ประโยชน์ต่อได้อีกมากมายทีเดียว ไม่ว่าจะเป็นการทำคอนเทนต์ หรือการพัฒนาธุรกิจให้ตอบสนองความต้องการกลุ่มเป้าหมาย
Virtual Reality (VR) and Augmented Reality (AR)
เทคโนโลยี VR และ AR สามารถช่วยให้ธุรกิจสร้างประสบการณ์ใหม่ ๆ แก่ลูกค้าได้ เช่น ธุรกิจเฟอร์นิเจอร์ ใช้ระบบ VR เพื่อช่วยให้ลูกค้าสามารถลองวางเฟอร์นิเจอร์ในบ้านก่อนตัดสินใจซื้อ หรือธุรกิจเครื่องสำอาง ใช้ AR เพื่อช่วยให้ลูกค้าสามารถลองเครื่องสำอางเสมือนจริง เป็นต้น
การสร้างวัฒนธรรมที่ส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์
สนับสนุนให้พนักงานคิดนอกกรอบ
ธุรกิจควรส่งเสริมให้พนักงานกล้าคิดนอกกรอบ กล้านำเสนอไอเดียของตนเองท่ามกลางพนักงานหมู่มาก ยอมรับความผิดพลาด และมีอิสระในการทดลองสิ่งใหม่ ๆ โดยปราศจากความกลัวที่จะถูกตำหนิหรือลงโทษ เพื่อที่ธุรกิจจะได้มี Solution ดี ๆ ในการพัฒนาสินค้าและบริการของตนเองต่อไป
สร้างพื้นที่แห่งการเรียนรู้
การสร้างบรรยากาศที่เอื้อต่อความคิดสร้างสรรค์และการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นถือเป็นสิ่งสำคัญในการทำงาน โดยธุรกิจควรสร้างพื้นที่ให้พนักงานสามารถเรียนรู้ แลกเปลี่ยนความคิดเห็น และร่วมกันพัฒนา Solution และ Innovation ใหม่ ๆ ให้ธุรกิจได้ จากนั้น ควรจัดหาเทคโนโลยีที่เหมาะสมเพื่อช่วยสนับสนุนขั้นตอนการทำงานของทีมให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น
ให้รางวัลแก่ความคิดสร้างสรรค์
ธุรกิจควรให้รางวัลแก่พนักงานที่มีไอเดียใหม่ ๆ และผลงานที่สร้างสรรค์ เพื่อสร้างแรงจูงใจในการทำงาน และกล้าที่จะนำเสนอ Creativity ของตนเองเพื่อพัฒนา Solotion ของธุรกิจให้ประสบความสำเร็จยิ่งขึ้น
ตัวอย่างองค์กรที่ประสบความสำเร็จด้าน Creativity x Technology
มีหลายองค์กรที่ประสบความสำเร็จในการนำแนวคิด Creativity x Technology มาผสมผสานกันอย่างลงตัว เช่น บริษัท Apple ที่ใช้การออกแบบผลิตภัณฑ์ที่โดดเด่นและเทคโนโลยีที่ทันสมัยเพื่อสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์อย่าง iPhone ซึ่งเปลี่ยนแปลงวงการสมาร์ตโฟนไปตลอดกาล หรือบริษัท Netflix ที่ใช้ AI วิเคราะห์พฤติกรรมและรสนิยมของผู้ชม แล้วนำมาสร้างสรรค์เนื้อหาที่ตรงใจผู้บริโภคได้อย่างแม่นยำ อาทิ ซีรีส์เรื่อง House of Cards ซึ่งเป็นซีรีส์เรื่องแรกที่ Netflix สร้างขึ้นเองจากการวิเคราะห์ข้อมูลและพฤติกรรมของผู้ชม
สิ่งเหล่านี้แสดงให้เห็นว่า การผสานความคิดสร้างสรรค์และเทคโนโลยีเข้าด้วยกันอย่างมีประสิทธิภาพ จะช่วยให้ธุรกิจสามารถพัฒนาสินค้าและบริการให้มีความแปลกใหม่และตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคได้อย่างแท้จริง อันจะนำไปสู่ความสำเร็จและความได้เปรียบในการแข่งขันทางธุรกิจในระยะยาว
อยากปรับธุรกิจให้มีความทันสมัยมากขึ้นเจโนไซส์จะพานำพาธุรกิจคุณไปสู่การค้นพบ Solution ที่เหนือชั้น ด้วยบริการที่จะช่วย Unbox Technology ให้ธุรกิจคุณได้บุกเบิกการเติบโตก้าวกระโดดแบบ S-Curve ติดต่อเราได้เลยวันนี้